วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ซึนาเดะ

นาเมคุจิ ซึนาเดะ (ญี่ปุ่น綱手 Tsunade ซึนะเดะ ?) ตัวละครคุโนะอิจิจากการ์ตูนเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


หลานสาวของของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 3และเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ หลังจากที่ซึนะเดะสูญเสียน้องชายและแฟนในช่วงสงครามนินจา ซึนาเดะได้ชื่อว่าเป็นแพทย์นินจาที่เก่งที่สุดในดินแดนนินจา ภายหลังสงครามนินจาจบ ซึนาเดะจึงได้ออกจากหมู่บ้าน และได้ใช้เวลาของตัวเองไปกับการพนัน (เล่นไม่เก่งเลยชอบยืมเงินเค้าไปเล่นพนันแล้วชิ่งหนีเอาดื้อๆ จึงต้องแปลงกายเป็นคนอายุ20บ้าง10กว่าๆบ้าง35บ้าง เพื่อหนีหนี้ที่เขาตามเก็บ) จึงมีฉายาว่า "มงกุฎในตำนาน" ซึ่งมงกุฎดังกล่าวมาจากคำว่า 'สิบแปดมงกุฎ" มีผู้ติดตามคือชิซึเนะสูง180ซ.ม.หนัก43กก. (บ้างก็ว่าสูง 163 ซม. หนัก 48 กก.)
ซึนาเดะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งมากในด้านพลัง มีจักระ พลังช้างสารของซึนาเดะสามารถ ทำลายกำแพงหรือทำดินให้แตกเป็นหลุมด้วยการอัดหรือฟาดเท้าเพียงครั้งเดียว และเป็นนินจาแพทย์ที่ไม่มีวันตาย เธอสามารถชุบชีวิตตัวเองกี่ครั้งก็ได้ในการต่อสู้ และยังมีผนึกอักคระที่สามารถเปลียนมาเป็นการฟึ่นฟูสภาพ ตัวเองได้ด้วย แต่การชุบชีวิตและฟื้นฟูตนเองนั้น จะมีผลข้างเคียง ทำให้อายุสั้นลงเรื่อยๆ ภายหลังจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต จิไรยะและนารูโตะ ได้ออกตามหาตัวซึนาเดะ เพื่อให้กลับมาเป็นโฮคาเงะของหมู่บ้านโคโนฮะและรักษานินจาที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับหมู่บ้านซึนะกับโอเตะ ในขณะเดียวกันโอโรจิมารุ ผู้สังหารโฮคาเงะรุ่นที่ 3 มีบาดแผลที่มือไม่สามารถใช้วิชานินจาได้ และต้องการให้นินจามือดีก็คือซึนาเดะรักษาให้ โดยโอโรจิมารุให้ข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรักษา โดยใช้คาถาต้องห้ามที่คิดขึ้นมาช่วยรักษาน้องชายและชายผู้เป็นที่รัก (แฟน) แต่ซึนาเดะตัดสิ้นใจไม่ได้โอโรจิมารุให้เวลา 1 อาทิตร์ในการตัดสิ้นใจ หลังจากที่ปฏิเสธซึนาเดะ จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันโอโรจิมารุแต่โอโรจิมารุก็ไม่ชนะจึงกลับไป เพราะจีไรยะ นารุโตะ และชิซึเนะ มาช่วยไว้ ซึนาเดะได้กลับมาหมู่บ้านรับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่ 5 และได้กลับมารักษา ลี คาคาชิ และซาซึเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้หลังจากที่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต ซึนาเดะชอบดื่มเหล้า และ เครื่องดื่มร้อนๆ ไม่ชอบกินของหวาน (โดยเฉพาะ ขนมดังโกะ)



จาก วิกิพีเดีย

โอโรจิมารุ

โอโรจิมารุ (ญี่ปุ่น大蛇丸 Orochimaru โอะโระจิมะรุ ?) ตัวละครนินจาจากการ์ตูนเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


โอโรจิมารุอดีตนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี และได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างอมตะ เพื่อสามารถสำเร็จวิชานินจาทุกชนิดที่มีมา ผลปรากฏว่าทำให้หลายคนในหมู่บ้านไม่พอใจ รวมทั้งโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จนเมื่อมีการคัดเลือกโฮคาเงะรุ่นต่อมา โอโรจิมารุไม่ได้รับเลือก ทำให้โอโรจิมารุแค้นโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และได้หนีออกจากหมู่บ้านไป
ต่อมาโอโรจิมารุได้ก่อตั้งหมู่บ้านโอโตะ และได้เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษา



จาก วิกิพีเดีย

จิไรยะ

จิไรยะ (ญี่ปุ่น自来也 Jiraiya จิระอิยะ ?) เกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน (วันที่สมมุติ) ตัวละครการ์ตูนจากเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


จิไรยะ อดีตศิษย์ของ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 (ชารุโทบิ) พร้อมกับ โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ที่ซึ่งรู้จักในชื่อ สามนินจาในตำนาน จิไรยะเป็นอาจารย์โดยตรงของ โฮคาเงะรุ่นที่ 4และยังเป็นอาจารย์ชั่วคราวให้กับเพนและโคนัน (แสงอุษา) จิไรยะ รู้จักในชื่อ "เซียนกบ" เขาชอบท่องเที่ยวผจญภัย ในระหว่างการเดินทาง เขาได้แต่งหนังสือ สวรรค์รำไร หรือ อะจึ๋ยสวรรค์รำไร และได้ฉายาว่า "เซียนลามก" หรือ "ตาเซียนลามก"
ในวัยเด็ก จิไรยะเป็นเกะนินโดยมีอาจารย์คือ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หลายปีผ่านไปจากเหตุการณ์ที่ โอโรจิมารุถอนตัวออกจากหมู่บ้าน เขาก็เริ่มออกเดินทางเช่นกัน เขาออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของเขา ขณะที่เขาเดินทางเขาก็แต่งหนังสืออ่าจึ๋ยๆ ไปด้วย เมื่อจิไรยะกับมายังโคโนฮะอีกครั้ง นารูโตะได้ใช้คาถายั่วยวนจิไรยะ (คาถามหารั่นจวน) จนจิไรยะทนไม่ไหวและเขาก็ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนารูโตะพร้อมทั้งสอนทักษะระดับโฮคาเงะต่างๆ ให้กับนารูโตะ จนกระทั่งเขารู้สึกทึ่งกับความสามารถที่นารูโตะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จิไรยะได้ทำสัญญาเลือดกับ กบแดง กามะบุนตะ
จิไรยะมีงานอดิเรกคือแอบดูผู้หญิงอาบน้ำเป็นประจำ แม้แต่ในขณะที่นารูโตะกำลังลำบาก (สำหรับเป็นข้อมูลในหนังสือสวรรค์รำไร)
หลังจากทีม"งู"ของซาสึเกะ และทีมโคโนะฮะได้ออกเคลื่อนไหวเพื่อหาตัวอุจิวะ อิทาจิ จิไรยะได้ลักลอบเข้าหมู่บ้านอาเมะ งาคุเระได้สำเร็จ เขาได้ต่อสู้กับเพนหรือ นางาโตะ ซึ่งมีถึง 6 ร่าง โดยครั้งนี้เขาได้เผยร่างเซียนออกมาสู้กับเพน และในขณะที่ได้รู้ถึงร่างจริงของเพน เขาก็ได้โดนเพนโจมตีจนแขนขาดและตัวตายในที่สุด แต่จิไรยะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเพนก่อนจะสิ้นลมหายใจไป ซึนาเดะและจิไรยะได้นั่งพูดคุยในเรื่องอดีตกัน ซึนาเดะบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเป็น โฮคาเงะ เพราะโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เคยบอกไว้ว่าคนที่จะเป็นโฮ คาเงะคนต่อไปคือ จิไรยะนั่นเอง สุดท้าย จิไรยะถูกเพนฆ่าตายในนารูโตะชิปปุเด็นตอนที่ 133



จาก วิกิพีเดีย

เพน

เพน (ペイン Pain) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


หัวหน้าของแสงอุษา วิชาลับของเขาคือการมีร่าง 6 ร่างที่ใช้จิตเดียวกัน รู้จักกันในชื่อ เพน 6วิถี (ペイン六道 Pain Rikudō) ลักษณะที่เหมือนกันคือผมสีส้ม มีการเจาะจำนวนมากตามร่างกาย และทุกร่างมีเนตรสังสาระ (輪廻眼 Rinnegan) เนตรสังสาระ เชื่อกันว่าเป็นวิชาเนตรดั้งเดิมที่ถูกค้นพบในโลกนินจาเป็นวิชาแรก มีรูปร่างเป็นวงกลมซ้อนกันหลายชั้นในดวงตา มีความสามารถช่วยให้ผู้ครอบครองสามารถใช้วิชานินจาได้ทุกชนิดและควบคุมจักระได้ทั้งหมด 6 ชนิด และยังทำให้ร่างทั้ง 6 ใช้ทัศนะวิสัยร่วมกันในการมอง ทำให้ร่วงทั้ง 6 สามารถร่วมมือกันโจมตีและป้องกันการโจมตีจากศัตรู โดยร่างแต่ละร่างของเพนในปัจจุบัน ล้วนเป็นนินจาที่จิไรยะเคยพบระหว่างที่เขาเดินทางไปยังที่ต่างๆ ตัวอย่างความสามารถของแต่ละร่าง ดังนี้ 1.วิถีสวรรค์ สามารถใช้ 1.1 ข่ายเขตพิชิตฟ้า ผลักทุกอย่างออกไปได้ทั้ง คาถา การโจมตีทางกายภาพรวมถึงผู่คนด้วย นอกจากนี้วิชานี้เพนยังสามารถรวมรวมจักระแล้วพลักอย่างรุนแรง เหมือนระเบิดได้ซึงเพนใช้กับ โคโนฮะ แต่แลกกับการสูญเสียพลัง ช่วงเวลานึง 1.2 ชื่อหมื่นลักษร์เหนี่ยวสวรรค์ สามารถดูดคนและสิ่งของให้เข้ามาหาตัวเพนได้ 1.3 ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ เพนจะปล่อยลูกบอลสีดำ เพื่อสร้างแรงดึงดูดมหาศาล โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ บอลนั้น นอกจากนี้เพนร่างนี้ยังสามารถควบคุมฝนได้ 2.วิถีอสูร ร่างนี้เหมือน มนุษย์ดัดแปลง ร่างกายเป็นอาวุธ เช่น ยิงแขน ปล่อยจวรด เป็นต้น 3.วิถีเปรต ร่างนี้สามารถดูดพลังนินจาทุกอย่างได้ 4.วิถีมนุษย์ ร่างนี้สามารถ อ่านความคิดของคนที่โดนจับและดูดวิณญานได้ 5.วิถีเดรัชฉาน สามารถอันเชิญสัตว์ต่างๆออกมาได้ เช่น ปู นก กระทิง สุนัขสามหัว แรด เป็นต้น 6.วิถีนรก ร่างนี้มีความสามารถชุบชุบชีวิต เพนร่างอื่นได้ และยังทำอย่างอื่นได้อีกด้วย
เดิมทีผู้ครอบครองเนตรสังสาระคนแรกที่จิไรยะพบคือนางาโตะ (長門 Nagato) เด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งจากหมู่บ้านอาเมะงาคุเระ ที่ระเห็จจากสงครามเช่นเดียวกับยาฮิโกะและโคนัน โดยพวกเขาพบกับจิไรยะและทีม(ได้แก่โอโรจิมารุและ ซึนาเดะ)หลังทีมจิไรยะเสร็จภารกิจและเดินทางกลับโคโนฮะ จิไรยะได้ดูแลและสอนวิชานินจาพื้นฐานให้พวกเขาเพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่จะย้อนกลับไปยังหมู่บ้านโคโนฮะ เหตุการณ์ที่เชื่อว่าเกิดชึ้นหลังจากนั้นไม่นานคือ นางาโตะเริ่มเชื่อว่าวัยเด็กที่ทรมานของเขาได้สอนเขา และเริ่มมองเห็นตัวเองเป็นพระเจ้าที่สอนให้โลกรู้จักการต่อสู้อย่างไร้ความหมาย หลังจากนั้นพวกนางาโตะก็เริ่มเคลื่อนไหวเป็นองค์กรขนาดเล็กและถูกพวกฮันโซและดันโซแห่งหน่วยลับหักหลัง เป็นเหตุให้ยาฮิโกะต้องตาย เพนปรากฏตัวในอาเมะคะกุเระและเริ่มสงครามกลางเมืองกับรัฐบาลในตอนนั้น เพนยุติสงครามโดยการสังหารผู้นำหมู่บ้าน ฮันโซ และมีการปฏิบัติภารกิจอย่างเด็ดขาดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้ที่จะกลับมาแก้แค้นเหลืออยู่ในหมู่บ้าน เพนฆ่าครอบครัว, เพื่อน, และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของฮันโซ และสถาปนาตัวเองเป็นพระเจ้า โดยมีนินจาจำนวนมากหันมาจงรักภักดีต่อเพน และทำสัญลักษณ์ขีดฆ่าที่กระบังหน้าเข้าร่วมเป็นแสงอุษาโดยยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านและยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของเพนทุกประการ โดยเพนใช้หมู่บ้านเป็นฐานทัพของเขาในการปฏิบัติงานของแสงอุษา ซึ่งแม้ว่าเขาจะสั่งการให้กับสมาชิกคนอื่นๆ โดยตรง และมีอำนาจเหนือพวกสมาชิกอื่นในฐานะหัวหน้า แต่โดยพฤติกรรมแล้วเพนก็ได้รับคำสั่งมาจากโทบิ(ในนามแห่ง อุจิวะ มาดาระ) อีกทอดหนึ่ง
เพนที่ยังรอดก็เพราะได้ข้อแลกเปลี่ยนกับนารูโตะว่าถ้าชุปชีวิตให้กับคนในหมู่บ้านที่เพนเข้ามาบุกแล้วนารูโตะจะต้องปล่อยเขาไป



จาก วิกิพีเดีย

โทบิ (หรือมาดาระ)

โทบิ (トビ Tobi) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 



เข้าร่วมกับแสงอุษาหลังจากการตายของซาโซริ เขาเข้าแทนที่ในตำแหน่งคู่หูของเดอิดาระ บุคลิกของโทบิต่างจากสมาชิกคนอื่นๆของแสงอุษา ซึ่งมักจะจริงจังและอุทิศตัวเองกับภารกิจ แต่โทบิมีนิสัยที่ตลกขบขันและดูไร้ความกังวล ซึ่งนิสัยนี้สร้างความรำคาญให้กับเดอิดาระ และเขามักจะจัดการโทบิด้วยท่าแก้เผ็ดที่ตลกขบขันในทุกครั้งที่โทบิสร้างความรำคาญให้เขาโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม คิซาเมะกลับชื่นชอบบุคลิกของโทบิที่สร้างความครึกครื้นรื่นเริงให้กับ “องค์กรที่มืดมน” ได้และเป็นผู้ที่นำจิ้งจอกเก้าหางมาบุกโคโนฮะนั่นเอง
หลังจากเหตุการณ์การปะทะกับซาสึเกะของเดอิดาระและโทบิ เขาได้ย้อนกลับไปออกคำสั่งกับ เพน ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแสงอุษา และเขาได้เผยตัวตนออกมาว่าเขาคือ อุจิวะ มาดาระ ในระหว่างการสนทนา จุดประสงค์ที่ มาดาระ ก่อตั้งแสงอุษาขึ้นเพื่อซ่อนความเคลื่อนไหวและจุดประสงค์ในฐานะมาดาระไว้เบื้องหลังองค์กร บุคลิกและการพูดของมาดาระนั้นต่างกับโทบิอย่างสิ้นเชิง โดยมักจะใช้คำที่สุภาพน้อยกว่าและคำพูดแสดงถึงความเย่อหยิ่งของตัวร้าย ตามเนื้อเรื่องนั้นเขายังคงปกปิดตัวจริงและอยู่ในฐานะของโทบิต่อไป ในการปะทะกับกลุ่มของนินจาโคโนฮะในภายหลังจากการเปิดเผยตัวมาดาระกลับไปแสดงนิสัยเหมือนโทบิตามเดิม
ใบหน้าที่แท้จริงของโทบิยังคงเป็นปริศนา ยกเว้นแต่ผมสีดำที่ชี้ขึ้นเท่านั้น เขาสวมหน้ากากที่ปกปิดใบหน้ายกเว้นตาขวาของเขาที่มีเนตรวงแหวน เขายังมีกลอนหรือเข็มที่แขนเสื้อของชุด ตอนนี้ถูกทับด้วยเสื้อคลุมของแสงอุษา นอกจากนี้โทบิยังเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สวมกระบังหน้าเหมือนนินจาคนอื่น วิชานินจาที่เผยออกมาแล้วคือ วิชานินจาย้ายมิติ ที่สามารถย้ายตนเองหรือผู้อื่นไปอยู่ในมิติที่คล้ายห้องเต็มไปด้วยกล่อง และสามารถไปที่ไหนก็ได้ตามต้องการ วิชานี้ยังสามารถปล่อยให้การโจมตีทะลุผ่านตัวเขาและทนต่อการโจมตีทางกายภาพ ในตอนปะทะกับกลุ่มนินจาโคโนฮะที่ออกตามตัวซาสึเกะและต้องการหลอกใช้ซาสึเกะไปทำลายโคโนฮะถึงแม้อิทาจิจะห้ามไว้แล้วเต่ก็ไม่สำเร็จ



จาก วิกิพีเดีย 

ฮิดัน

ฮิดัน (飛段 Hidan) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


คู่หูปากดีของคาคุสึ ฮิดันเป็นสาวกของศาสนาจาชิน (เทพปีศาจ) เป็นศาสนาที่บูชาเทพเจ้าซึ่งมีชื่อเดียวกับชื่อลัทธิ และเชื่อว่าทุกสิ่งจะอยู่ภายใต้การพิพากษาลงทัณฑ์ของเทพปีศาจ โดย ฮิดันจะต้องภาวนาต่อจาชินทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ เพื่อขอพรสำหรับการสังหารที่ลุล่วงหรือขอการประทานอภัยหากเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้ โดยหลังจากการต่อสู้ ฮิดันจะทำพิธีกรรมต่ออีกเป็นเวลา 30 นาทีตามความเชื่อทางศาสนาและจบด้วยการแทงตัวเองที่หน้าอกขณะที่นอนอยู่กับพื้น โดยเขาจะได้รับการมีชีวิตอมตะเป็นการตอบแทน ฮิดันสามารถรอดชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสได้แม้กระทั่งถูกตัดหัวก็ตาม (แต่ถึงจะรอดชีวิตก็ต้องมีการเย็บเชื่อมต่อมันกลับเข้าหากันเพื่อกลับมาใช้ร่างกายตามปกติ) โดยคาคุสึจะใช้ความสามารถในการช่วยต่อชิ้นส่วนที่จาดจากกันให้และทำให้บาดแผลของเขารักษาได้ทันเวลา การที่ฮิดันมีวีตอมตะไม่ยอมตายนั้นก็เป็นประโยชน์ต่อคาคุสึเช่นกัน เพราะคาคุสึนั้นมักจะอารมณ์ไม่มั่นคงและอาจสังหารคู่หูได้โดยง่าย แต่กับฮิดันเขาสามารถโจมตีฮิดันได้เท่าที่เขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าคู่หูจะตาย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ชอบทำงานร่วมกันและมีปากเสียงกันเสมอ แต่จากความสามารถเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมในอุดมคติเลยทีเดียว
ระหว่างการต่อสู้ ฮิดันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรูเกิดบาดแผลเลือดไหนและหาทางสัมผัสกับเลือดนั้น(แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม) หลังจากนั้นเขาจะวาดสัญลักษณ์บนพื้นเพื่อใช้วิชาลับในการเชื่อมต่อร่างกายของเขาเข้ากับศัตรู โดยวิชานี้ ฮิดันจะจำแลงกายคล้ายกับยมทูตและ ร่างกายของตัวเขาเองจะมีความสามารถคล้ายตุ๊กตาวูดู(ตุ๊กตาสาปแช่ง) ทำให้การโจมตีทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฮิดัน ไปส่งผลบาดเจ็บที่ศํตรูแทน ฮิดันสนุกนานกับการโจมตีร่างกายตัวเองโดยไม่บาดเจ็บและส่งผลไปที่ศํตรูแทน และมักจะจมลงด้วยการแทงที่หัวใจของตัวเองเพื่อสังหารศัตรู โดยวิชานินจานี้จะถูกทำลายถ้าหากฮิดันเคลื่อนที่ออกจากสัญลักษณ์ที่เขาวาดขึ้นบนพื้นและจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งเมื่อกลับเข้าไปอยู่ในเขตของสัญลักษณ์เท่านั้น ชิกามารุคิดหาวิธีต่อกรกับวิชานี้หลังจากที่ฮิดันใช้มันฆ่า ซารุโทบิ อาสึมะ อาจารย์ของเขา และสุดท้ายฮิดันก็ติดกับแผนการที่ชิกามารุวางหมวากมาเป็นอย่างดี และถูกนำหัวไปฝังไว้ในหลุมลึกใต้ดินและปิดผนึกไว้ด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ ภายในอาณาเขตดูแลของตระกูลนารา แม้จะไม่สามารถระบุได้ว่าเขาตายหรือไม่ แต่ก็ทำให้เขาสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกของแสงอุษาไป



จาก วิกิพีเดีย

คาคุสึ

คาคุสึ (角都 Kakuzu) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


นินจาที่ถอนตัวจากทากิคะกุเระ และเป็นคู่หูของฮิดัน เขามีนิสัยโลภและต้องการเงิน(แม้จะอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับองค์กรแสงอุษา) ดังนั้นการหาเงินคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคาคุสึ โดยวิธีหาเงินที่เขาชอบคือการล่าค่าหัว โดยเฉพาะค่าหัวของนินจาฝ่ายดีที่ถูกตั้งขึ้นในตลาดมืด(คล้ายๆการที่มาเฟีย หรือโจรลงขันกันตั้งค่าหัวตำรวจ หรือเข้าหน้าที่สำคัญของทางการ) คาคุสึสามารถจดจำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเงินรางวัลค่าหัวและข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย คาคุสึถูกตั้งฉายาว่า “ขุมทรัพย์แห่งแสงอุษา” เพราะมุมมองเกี่ยวกับเงินทองของเขานี่เอง อย่างไรก็ตามหน้าที่ที่แท้จริงของเขายังเป็นปริศนา แม้ว่าแสงอุษาจะเป็นแหล่งรายได้ที่ดี แต่คาคุสึก็เกลียดความจริงที่ว่าเขาต้องมีคู่หู โดยปกติแล้วเวลาที่คาคุสึเกิดความโมโห เขามักจะเผลอฆ่าทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวรวมถึงคู่หูในทีมด้วย เพราะเหตุนี้ทำให้เขาต้องมาจับคู่จับฮิดัน(ซึ่งมีร่งอมตะ) และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ความเป็นอมตะของฮิดันทำให้เขากลายเป็นคู่หูในฝันของคาคุสึ
ร่างกายของคาคุสึถูกปกคลุมด้วยเส้นใยประหลาดสีดำและหนาทึบจำนวนมาก ซึ่งมีประโยชน์ในการต่อสู้ทั้งในระยะใกล้และไกล นอกจากนี้มันยังมีปลายแหลมและพุ่งเข้าทิ่มแทงเนื้อได้โดยอัตโนมัติ คาคุสึสามารถขโมยและยึดเอาหัวใจของศํตรูมาไว้ในรางกายตัวเองได้ด้วย เขาสามารถเก็บหัวใจอื่นไว้กับตัวเองได้ถึง4ดวงและใช้หัวใจที่สดใหม่เข้ามาเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวิตไปเรื่อยๆได้อย่างไม่จำกัดโดยผนึกมันไว้ที่หน้าการรูปสัตว์บริเวณหลัง4อัน หัวใจเหล่านี้ยังมีประโยชน์ทำให้คาคุสึสามารถใช้วิชานินจาธาตุต่างๆตามเจ้าของเดิมได้ และแต่ละหน้ากากสามารถแยกจากร่างกายของเขาออกไปสร้างเป็นร่างโจมตีได้อย่างอิสระและสามารถยิงระเบิดธาตุที่ทรงพลังใส่คู่ต่อสู้ได้ คาคุสึสามารถใช้หัวใจแต่ละอันทดแทนหัวใจที่อาจจะถูกทำลายไปได้ด้วย โดยปกติคาคุสึจะใช้พลังธาตุดินในการป้องกันซึ่งทำให้เขาทนทานต่อการโจมตีทางกายภาพอย่างมาก คาคุสึพ่ายแพ้จากการต่อสู้กับกลุ่มนินจาโคโนฮะที่ทำลายหน้ากากทั้งหมดลง หลังจากสิ้นท่าเพราะการโจมตีอันรุนแรงของนารุโตะทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวหนีไปไหนได้



จาก วิกิพีเดีย

ซาโซริ

ซาโซริ (サソリ Sasori) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


นินจาที่ถอนตัวจากซึนะคะกุเระ ซาโซริก็อยู่ในการดูแลของ จิโย ย่าของเขาหลังจากการตายของพ่อแม่ของเขา ซึ่ง จิโยเป็นผู้ที่สอนเขาทุกอย่างเกี่ยวกับการใช้คาถาหุ่นเชิดในการต่อสู้ และด้วยความรู้ใหม่ที่เขาได้รับนี้ เขาจึงสร้างหุ่นเชิดที่คล้ายพ่อแม่ของเขาออกมาเพื่อที่จะรับรู้ถึงความรักจากพวกเขา แต่ว่าพวกมันก็เป็นแค่หุ่นกระบอกที่ไม่มีความรู้สึก เขารู้สึกว่าเป็นความพยายามที่ล้มเหลาและหลังจากนั้นซาโซริก็ได้ทิ้งพวกมันไว้และออกจากหมู่บ้านไปเข้าร่วมกับแสงอุษา และจับคู่กับโอโรจิมารุ โดยเขาเป็นหนึ่งในคนที่วางแผนสังหารโอโรจิมารุภายหลังจากการถอนตัวออกจากองค์กรของโอโรจิมารุด้วย ภายหลังซาโซริจับคู่กับ เดอิดาระและค่อนข้างเข้าคู่ทำงานร่วมกันได้ดีกว่าแต่ก่อนเช่นการที่เดอิดาระค่อนข้างมความนับถือในความสามารถของซาโซริ แม้ว่าทั้งสองคนจะมีมุมมองของศิลปะที่แตกต่างกัน เป็นต้น (เดอิดาระชื่นชมงานปั้นที่ถูกทำลายด้วยระเบิดในทันที แต่ซาโซริชื่นชมงานสร้างหุ่นกระบอกที่คงอยู่ยาวนาน) เดอิดาระยอมรับซาโซริในฐานะอาจารย์ของเขาจนถึงวาระสุดท้าย แม้ว่าซาโซริจะไม่เคยชื่นชมความคิดของเขา
ซาโซริเชี่ยวชาญในการสร้างหุ่นเชิดที่ทำมาจากศพและกระดูกคน โดยการเอาเครื่องในออกและใช้วิธีถนอมรักษา(สตาฟ)มันไว้ไม่ให้เน่าเปื่อย ปกติซาโซริจะอยู่กับหุ่นเชิดฮิรูโกะ (ヒルコ Hiruko) ซึ่งเป็นหุ่นเชิดที่เขาเข้าไปซ่อนตัวอยู่ข้างในเหมือนกับชุดสวมในการแสดงละคร โดยหุ่นที่เขาชอบใช้ในการต่อสู้มากที่สุดและถือเป็นไพ่ตายอย่างหนึ่งก็คือหุ่นของคาเสะคาเงะรุ่นที่ 3 อดีตผู้นำแห่งซึนะคะกุเระที่ถูกลักพาตัวและสังหารก่อนที่เดอิดาระจะออกมาจากหมู่บ้าน เนื่องจากซาโซริ้รู้จักกับรุ่นที่ 3 เมื่อครั้งยังมีชีวิตทำให้ซาโซริสามารถใช้ความสามารถเลียนแบบได้เหมือนจริงและสมบูรณ์มาก กระนั้นหุ่นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือร่างกายของเขาเองเนื่องมาจากเขาได้ดัดแปลงร่างกายของเขาให้กลายเป็นหุ่นเชิดเช่นกัน เหตุนี้ทำให้เขาคงความหนุ่มที่ผิดธรรมชาติไว้ได้ และร่างกายหุ่นเชิดของซาโซริยังมีความสามารถที่จะควบคุมหุ่นเชิดได้ถึงร้อยตัวพร้อมกัน ซาโซริก็สร้างกล่องสำหรับเก็บหัวใจและผนึกไว้ที่หน้าอกของตุ๊กตาที่ใช้เป็นร่างกายของตัวเอง โดยหากเกิดการโจมตีที่ไม่ส่งผลให้กล่องหัวใจนี้ได้รับความเสียหาย ซาโซริก็จะยังคงรอดชีวิตไม่มีวันตายและย้ายมันไปยังร่างตุ๊กตาใหม่อื่นๆได้เสมอทำให้เขาไม่มีวันตายเช่นกัน นอกจากนี้อาวุธที่หุ่นเชิดใช้(รวมทั้งอาวุธที่ซ่อนอยู่ในกลไกต่างๆของหุ่น) ยังเป็นอาวุธที่มีพิษและเป็นพิษที่ซาโซริเป็นคนผสมเองโดยมีพิษที่ร้ายแรงขนาดทำให้ร่างกายของเป้าหมายอัมพาตและจะตายลงหลังจากนั้นภายใน 3 วัน ซาโซริพ่ายแพ้และเสียชีวิตหลังจากการต่อสู้ที่นาวนานกับอย่าของเขาที่ร่วมมือกับซากุระ ในระหว่างการปะทะกับนินจาของโคโนฮะที่ออกติดตามชิงตัว กาอาระ ที่ถูกลักพาตัวไปกลับคืนมา



จาก วิกิพีเดีย 

เดอิดาระ

เดอิดาระ (デイダラ Deidara) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 



 นินจาที่ถอนตัวจากอิวะคะกุเระ ก่อนที่จะเข้าร่วมกับแสงอุษา เดอิดาระเป็นผู้ก่อการร้ายวางระเบิดรับจ้าง ซึ่งงานของเขาดึงดูดความสนใจของเพน และได้ส่งสมาชิกแสงอุษาคนอื่น มารับตัวเดอิดาระมาเป็นสมาชิกใหม่ แม้ว่าเดอิดาระจะปฏิเสธแต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเข้าร่วมกลุ่มหลังจากที่พ่ายแพ้ต่ออิทาจิ นอกจากนี้เดอิดาระยังคงมีตั้งใจที่จะกลับมาเอาชนะอิทาจิให้ได้ในอนาคต จึงได้ฝึกฝนเทคนิกพิเศษเพื่อเอาชนะวิชาลวงตาของอิทาจิไปด้วย เดิมทีเดอิดาระปรากฏตัวเป็นคู่หูของซาโซริ ซึ่งมีความมาสารถทางศิลปะและเข้าใจสิ่งที่เดอิดาระนับถือ เดอิดาระจับคู่กับโทบิหลังการตายของซาโซริ โดยซาโซริมองโทบิเหมือนกับรุ่นน้องหรือลูกศิษย์ แม้ว่านิสัยของโทบิจะทำให้เดอิดาระรำคาญ แต่เดอิดาระก็ดูแลโทบิเป็นอย่างดี คอยกันโทบิออกมาจากอันตราย แม้กระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาก็ยังระรึกขอโทษโทบิในใจ (ในการระเบิดตัวตายซึ่งกินวงกว้างและอาจจะทำให้โทบิตายไปด้วยเพราะหนีไม่ทัน)
วิชาต่อสู้ของ เดอิดาระ คือใช้ฝ่ามือซึ่งมีปากพิเศษในการสร้างดินระเบิด (起爆粘土 Kibaku Nendo) ดินที่ผสมจักระที่จะระเบิดเมื่อเขาออกคำสั่ง โดยคำสั่งที่เขาใช้ก็คือ คัตสึ (喝 "Scold") โดยแรงระเบิดนั้นขึ้นอยู่กับจักระที่เขาใช้เข้าไปในดิน ดินของเขาสามารถออกมาในรูปแบบใดหรือขนาดใดก็ได้ จากขนาดเล็กมากจนถึงร่างเลียนแบบตัวเขาที่สูงเสียดฟ้า เดอิดาระชอบพูดว่างานสร้างสรรค์ของเขาเป็นศิลปะ เชื่อว่าสิ่งที่สวยงามที่สุดคือการระเบิด ความเลื่อมใสในศิลปะของเขานั้นทำให้เขาเชื่อว่ามันไม่มีทางแพ้ได้และทำให้เขากลายเป็นคนที่มั่นใจมากเกินไป เดอิดาระจะปรับรูปแบบการใช้ระเบิดตามลักษณะของภารกิจ โดยเขาจะกำหนดขนาดระเบิดระหว่าง C1 ถึง C4 ซึ่ง C1 คือระเบิดที่ธรรมดาๆ และ C4 คือระเบิดที่รุนแรงที่สุดและมีการโจมตีที่ซับซ้อนที่สุด นอกจากนี้เดอิดาระยังมีวิชาลับคือปากที่บริเวณหน้าอกที่เมื่อใส่ดินเข้าไปก็จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นระเบิดมีชีวิตที่มีรัศมีการทำลาย 10 กิโลเมตร เดอิดาระตัดสินใจใช้วิชานี้ในการต่อสู้กับซาสึเกะหลังจากพบกับความยากลำบากในการเอาชนะ และเขามั่นใจว่าวิชานี้จะชนะเพื่อพิสูจน์ว่าศิลปะของเขาอยู่ในระดับสูงสุด



จาก วิกิพีเดีย

เซ็ตซึ

เซ็ตซึ (ゼツ Zetsu) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 



ทำหน้าที่เป็นสายลับของแสงอุษา ความสามารถของเขาช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของเขาทำได้ง่ายเพราะว่าเขาสามารถแทรกตัวเข้าไปในสิ่งต่างๆและเดินทางไปที่ใดก็ได้ทันที เขายังสามารถย้ายร่างกายของเขาและเข้าแทรกแซงระหว่างที่กำลังทำพิธีกรรมลับของแสงอุษาซึ่งต้องการความปลอดภัยสูงไปด้วยได้ ทำให้เขาสามารถเฝ้าระวังแขกไม่ได้รับเชิญในขณะที่กำลังประกอบพิธี และเนื่องจากหน้าที่ที่เขาต้องทำ เซ็ตซึจึงเป็นสมาชิกแสงอุษาคนเดียวที่ไม่มีคู่หู ถึงอย่างนั้น เซ็ตซึก็ยังมีความสำคัญต่อสมาชิกคนอื่นๆ ในการรายงานความเคลื่อนไหว ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะส่งข่าวให้กับเซ็ตสึมากกว่าส่งให้เพนโดยตรง
หัวของเซ็ตซึถูกปกปิดด้วยกาบหอยแครงขนาดใหญ่ ที่ยังคงปกปิดร่างกายส่วนใหญ่ของเขาด้วย เซ็ตซึเป็นพวกกินเนื้อสดๆ คอยกินร่างที่พวกแสงอุษาไม่ต้องการให้ถูกพบเพื่อเก็บรักษาความลับ ทำให้เขามีหน้าที่เป็นนินจานักล่าด้วย เขายังทำหน้าที่เก็บแหวนของสมาชิกแสงอุษาที่ตายไปแล้ว โดยเซ็ตสึมีลักษณะเหมือนคนสองบุคลิกในร่างเดียว ซึ่งจะแบ่งร่างกายฝั่งขวาของเซ็ตซึเป็นสีดำในขณะที่ฝั่งซ้ายเป็นสีขาว จากเนื้อเรื่องจะพบว่าครึ่งสีดำของใบหน้าจะมีเสียงทุ้ม ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะมีเสียงแหลมกว่า และทั้งสองฝั่งมักจะพูดคุยกันเอง (ทางความคิด) และบ่อยครั้งที่มีความเห็นต่างกัน



จาก วิกิพีเดีย

คิซาเมะ

โฮชิงากิ คิซาเมะ (干柿 鬼鮫 Hoshigaki Kisame) ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 



คือนินจาที่ถอนตัวจาก คิริคะกุเระ มีลักษณะนิสัยชอบที่จะต่อสู้อย่างไม่หวั่นเกรงเสมอในขณะที่ อิทาจิคู่หูของเขากลับเลือกที่จะสู้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น คิซาเมะ ทำงานกับอิทาจิได้เข้าขากันเป็นอย่างดีเมื่อเปรียบเทียบกับคู่หูทีมอื่นๆในแสงอุษา เขามีความเคารพและยินดีทำสิ่งที่อิทาจิบอกให้ทำทันทีและมักจะเป็นห่วงในสุขภาพของอิทาจิเสมอ อดีตแคว้นของเขาคือ มิซึโนะคุนิ (ดินแดนแห่งน้ำ) ซึ่งควานหาตัวเขาอย่างหนักเพราะว่า คิซาเมะเคยวางแผนที่จะล้มล้างอำนาจของรัฐบาลและมีส่วนในเหตุการณ์สังหารหมู่ของแคว้น เดิมที คิซาเมะ ทำงานให้คิริงากุเระ ในฐานะสมาชิกกลุ่ม เจ็ดนักดาบแห่งสายหมอก ซึ่งเป็นกลุ่มแห่งนินจาที่ใช้อาวุธขนาดยักษ์ในการต่อสู้ อาวุธของคิซาเมะมีชื่อว่า ซาเมะฮาดะ (鮫肌, "หนังฉลาม") เป็นดาบที่ปกคลุมด้วยเกล็ดที่ใช้โกนผิวหนังแทนที่การตัดและมันสามารถดูดจักระได้ โดยดาบซาเมะฮาดะจะยอมรับให้คิซาเมะถือเท่านั้น ถ้ามีคนอื่นๆ พยายามที่จะถือมัน หนามแหลมจะแทงออกมาจากด้ามจับและมันจะกลับไปหาคิซาเมะทันที นิสัยของเขาซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นนิสัยของพวกเจ็ดนักดาบแห่งสายหมอกคือชื่นชอบการตัดส่วนต่างๆ ของคู่ต่อสู้ เช่นกรณี ที่คิซาเมะบอกว่าการตัดขาของอุซึมากิ นารุโตะจะทำให้เขาแบกได้ง่ายขึ้น
คิซาเมะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายฉลาม มีผิวสีน้ำเงินทั้งตัว ตาสีขาวคู่เล็ก ใบหน้ามีครีบอยู่ด้วย และฟันรูปสามเหลี่ยม แม้แต่ชื่อของเขา คิซาเมะ แปลว่า ฉลามปีศาจ รูปร่างที่คล้ายฉลามของเขายังสัมพันธ์ต่อความสามารถที่เขาใช้ในการต่อสู้ด้วย เช่น เขาจะก่อให้น้ำกลายเป็นร่างฉลามเพื่อทำการโจมตีคู่ต่อสู้ ถ้าหากไม่มีน้ำในที่ๆ เขาต่อสู้ คิซาเมะสามารถใช้ คาถาน้ำ คลื่นน้ำระเบิดจู่โจม (水遁・爆水衝波 Suiton: Bakusui Shōha) เพื่อสร้างทะเลสาบเพื่อใช้ในการโจมตี คิซาเมะยังมีจักระจำนวนมหาศาล และมีมากที่สุดในบรรดาสมาชิกของแสงอุษา เขามักจะใช้พลังแค่ 30% ในการต่อสู้ ซึ่งก็เทียบเท่ากับพลังสถิตของจิ้งจอกเก้าหางของนารุโตะในตอนที่ใช้ระหว่างสอบจูนิน คิซาเมะ นั้นมีร่างปีศาจเมื่อรวมร่างกับดาบหนังฉลามซึ่งเทียบเท่าพลังสถิตร่าง มีร่างเป็นปีศาจฉลามและได้รับฉายาว่า สัตว์หางที่ไม่มีหาง



จาก วิกิพีเดีย 




อุจิวะ อิทาจิ

อุจิวะ อิทาจิ (ญี่ปุ่นうちは イタチ ?ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 


        เป็นพี่ชายแท้ๆของ อุจิวะ ซาซึเกะ เป็นอดีตหน่วยลับของโคโนฮะ ถูกตามล่า เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างตระกูลของตนเอง โดยปล่อยให้ ซาซีเกะรอดเพื่อเหตุผลคือ เพื่อให้ซาสึเกะแข็งแกร่งและเก่งขึ้น แพ้ให้กับซาสึเกะในการต่อสู้



เป็นนินจาที่ถอนตัวจาก โคโนฮะคะกุเระ และมีคู่หูคือ โฮชิกาคิ คิซาเมะ โดยระหว่างที่เขายังอยู่ที่โคโนฮะ เขาเป็นนินจาที่มีพรสววรค์และพัฒนาจนกลายเป็นนินจาที่เก่งกาจอย่างรวดเร็ว และทำให้กลายเป็นคนที่เด่นและได้รับความสนใจจากคนในตระกูลเป็นอย่างมาก
อิทาจิ เดิมเป็นนินจาในหน่วยลับของ โคโนฮะงาคุเระ และมีความเป็นอัจฉริยะสูงมากได้เข้าหน่วยตั้งแต่อายุยังน้อย อิทาจิเกิดปัญหาขัดแย้งกับคนในตระกูลโดยเดิมที เขาถูกสงสัยว่าเป็นผู้สังหาร อุจิวะ ชิซุย เพื่อนสนิทและเป็นญาติในตระกูลอุจิวะด้วยกัน เพื่อเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา และต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรผู้ฆ่าล้างตระกูล ทำให้ต้องถอนตัวออกจากหมู่บ้านไปเป็นนินจาถอนตัว และเข้าร่วมกับองค์กร แสงอุษาในที่สุด โดยมีเพียง ซาสึเกะ น้องชายแท้ๆเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในครั้งนั้น
แม้ว่าสถานะของเขาจะเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวและฆาตกร อิทาจิก็ไม่ได้แสดงออกถึงความชื่นชอบในความรุนแรงหรือการต่อสู้ อิทาจิมักจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ และเลือกต่อสู้เท่าที่จำเป็นทำนั้น โดยหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วเขาก็จะจบมันอย่างรวดเร็วที่สุด อิทาจิมักจะคงลักษณะสงบนิ่งไม่แสดงออกแม้ในยามที่ต่อสู้ เขามักจะอยู่ในลักษณะตั้งรับและคอยสวนกลับการโจมตีเสมอ อิทาจิสามารถจับการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเนตรวงแหวน(เช่นเดียวกับผู้ใช้เนตรคนอื่นๆ) โดยใช้มันเพื่อประเมินท่าทางของคู่ต่อสู้และโต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเนตรวงแหวน กระจกเงาหมื่นบุปผาซึ่งเป็นวิชาเนตรพิเศษของเขา และด้วยเนตรพิเศษนี้ยังทำให้อิทาจิสามารถใช้วิชาเนตรพิเศษอื่นๆ เช่น อ่านจันทรา (Tsukuyomi 月読) วิชาคาถาลวงตาที่สร้างเหตุการณ์จำแลงแต่สามารถสร้างความเสียหายทางร่างกายและจิตใจของศัตรูได้, เทวีสุริยา (Amaterasu 天照) วิชาทรงพลังที่เรียกเปลวเพลิงสีดำที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ 10 เท่าและสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งตามทิศทางที่ดวงตามองเห็น และจะเผาผลาญไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะดับสิ้น และเทพวายุ (Susanoo 須佐能乎) วิชาลับขั้นสูงของเนตรพิเศษที่จะอัญเชิญดาบและโล่ของเทพเจ้ามาใช้ในการต่อสู้ด้วย อิทาจิมีความชานาญในพื้นฐานวิชาลวงตาเป็นอย่างดี และยังสามารถหลอกคู่ต่อสู้ด้วยการสบตาเท่านั้น นอกจากนี้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะการทำสัญลักษณ์มือเพื่อสร้าง"อิน" และใช้วิชานินจาได้โดยศัตรูไม่ทันระวังตัว ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้วหลังจากการต่อสู้กับซาสึเกะ และได้ถ่ายทอดวิชาเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผาให้กับซาสึเกะไว้ โดยวิชาเนตรนี้จะทำงานอัตโนมัติกลายเป็นเทวีสุริยาทุกครั้งเมื่อสบตากับเนตรวงแหวนของโทบิ (มาดาระ) เพื่อป้องกันมาดาระไม่ให้เข้าใกล้ซาสึเกะ
หลังจากการเสียชีวิตของอิทาจิ ซาสึเกะได้ฟังการเล่าเรื่องของมาดาระเกี่ยวกับอิทาจิว่า แท้จริงการสังหารหมู่ครั้งนั้นเกิดจากการที่อิทาจิต้องการปกป้องหมู่บ้านโคโนฮะ เพราะตระกูลอุจิวะคิดจะก่อสงครามเพื่อปฏิวัติรัฐประหารยึดครองอำนาจในหมู่บ้าน อิทาจิต่อสู้โดยได้รับความช่วยเหลือจากมาดาระเพื่อหยุดยั้งคนในตระกูล และปกปิดเรื่องทั้งหมดเป็นความลับพร้อมถอนตัวออกจากหมู่บ้านและทำสัญญากับโฮคาเงะรุ่นที่3 ให้ช่วยดูแลซาสึเกะ ซึ่งเรื่องทั้งหมดมีเหตุมาจากความบาดหมางของตระกูลอุจิวะ กับโฮคาเงะรุ่นที่1 ผู้นำตระกูลเซ็นจูที่มาดาระเล่าว่าต้องการทำลายตระกูลอุจิวะ ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่มาดาระเล่านั้นจริงหรือไม่ แต่เชื่อได้ว่ามาดาระเล่าให้ซาสึเกะฟังเพื่อโน้มน้าวซาสึเกะมาเป็นพวกและร่วมกันก่อสงครามกับโคโนฮะ






จาก วิกิพีเดีย

ยูฮิ คุเรไน

ยูฮิ คุเรไน (ญี่ปุ่น夕日紅 ?ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ 


อาจารย์นินจาประจำกลุ่ม 8 เป็นอาจารย์ของ คิบะ ชิโนะ และ ฮินาตะ และเป็นแฟนของอาจารย์อาสึมะ ถนัดวิชาลวงตา





จาก วิกิพีเดีย

ซารุโทบิ อาซึมะ ( อาซึม่า )

ซารุโทบิ อาซึมะ (ญี่ปุ่น猿飛 アスマ ?ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ


      อาจารย์นินจาในหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นอาจารย์ของ โจจิ อิโนะ และชิกะมารุ ชอบสูบบุหรี่มากๆ อาซึมะเป็นลูกของรุ่นที่ 3 และเป็นลุงของโคโนะฮะมารุ ถูกฮิดันแห่งแสงอุษาฆ่า
จาก วิกิพีเดีย

อิรุกะ

อูมิโนะ อิรุกะ (ญี่ปุ่นうみの イルカ ?ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

        เป็นอาจารย์คนแรกของนารูโตะ และเป็นคนแรกที่เข้าใจ และเอาใจใส่นารูโตะ เหมือนลูก ชอบพานารูโตะไปเลี้ยงราเม็งบ่อยๆ อิรุกะสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และมีโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ





จาก วิกิพีเดีย

ไมโตะ ไก

ไมโตะ ไก (ญี่ปุ่นマイト ガイ ?ตัวละครจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

        อาจารย์ของร็อค ลี เนจิ และเท็นเท็น คิ้วหนามาก เป็นไอคอนของลี ได้ต่อสู้กับคาคาชิ(เช่น ดันพื้น เป่ายิ้งฉุบ) ชนะ 50 ครั้ง แพ้ 49 ครั้ง โดยการแพ้ครั้งที่ 49 ของเขาทำให้เขาต้องมาผูกพัน กับลูกศิษย์คนนี้ แถมไกยังรักลีที่เป็นลูกศิษย์อย่างกับลูกในไส้ ลักษณะพิเศษเวลายิ้มประกายปิ๊งปิ๊ง เรีกท่านี้ว่าท่า Nice guy





จาก วิกิพีเดีย